Post : 3 Oct 2022
อุตสาหกรรมยานยนต์ได้ปรับตัวมุ่งสู่การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด เพื่อลดปัญหาฝุ่นควันจากมลพิษ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ต้นเหตุของสภาวะโลกร้อน และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นในยุคน้ำมันแพง
ปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก และจะเร่งขับเคลื่อนการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบ โดยกำหนดให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก โดยพัฒนายานยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (ZEV)
อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยถึงแม้จะผลิตรถยนต์ได้สูงที่สุดในอาเซียน สูงกว่าอินโดนีเซียและมาเลเซียที่เป็นคู่แข่งสำคัญ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยเติบโตด้วยบริษัทรถยนต์ของญี่ปุ่นเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ ไทยยังทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ป้อนให้กับโรงงานประกอบรถยนต์ต่างชาติ แต่เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า จะเป็นโอกาสสำคัญของบริษัทไทยที่จะก้าวเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าได้
ปัจจุบันเห็นความพยายามของบริษัทรายใหญ่ของไทยที่สร้างอีโคซิสเตมสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีแผนการลงทุนผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ รวมถึงแผนการประกอบยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยที่ผู้ประกอบการไทยเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น
ถึงแม้จะมีคู่แข่งจากการเข้ามาตั้งฐานการผลิตของบริษัทอีวีจีน แต่บริษัทไทยมีโอกาสเบียดเข้าสู่ตลาดยานยนต์ในประเทศได้มากกว่าในอดีต และเป็นแนวทางที่ควรมีการส่งเสริมให้บริษัทไทยเข้มแข็งขึ้น
ข้อมูลจากส่งเสริมการลงทุนเปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนมีจำนวนรวม 26 โครงการ 17 บริษัท ซึ่งมีกำลังการผลิต 838,775 คัน มีมูลค่าการลงทุน 80,208.6 ล้านบาท โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) มีทั้งหมด 15 โครงการ